ยินดีต้อบรับสู่โลกเยอรมันนี

ก้าวข้ามเวลา กับเรื่องราวในอดีต

ประวัติศาสตร์อันยาวนาน

เเละยังคงยืนหยัด ตระการมาถึงทุกวันนี้

เรื่องราวในอดีต

ที่จะเป็นทั้งบทเรียน เเละบทป้องกันไม่ให้อนาคตได้ทำผิดพลาดอีก

คน สัตว์ สิ่งของ

ยืนยันจากเหตุการณ์ ว่าไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า

วัฒนธรรม ความเป็นอยู่

คือสิ่งที่ต้องเรียนรู้ เพื่อให้อยู่รอดอย่างมีความสุข

วันเสาร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2567

โมสาร์ทตกจากสวรรค์ เพื่อนำของกำนัลมามอบเเก่ชาวโลก

   


 โวล์ฟกัง อมาเดอุส โมสาร์ท Wolfgang Amadeus Mozart เกิดที่เมืองซาลสบวร์ก ( Salzburg) ประเทศออสเตรีย เมื่องค.ศ. 1756 เป็นลูกของนักดนตรีชื่อ เลโอโปลด์ โมสาร์ท Leopold Mozart

    โมสาร์ทเป็นอัจฉริยะตั้งเเต่เด็ก เพียงเดินเตาะเเตะเขาก็เล่นเปียในเป็นเพลงได้เเล้ว เเต่เขียนโน้ตยังไม่เป็น บิดาจึงเป็นคนบันทึกโน้ตให้ ตอนอายุ 5 ขวบ โมสาร์ทเขียนโน้ตเอง ทำหมึกเลอะเทอะตามประสาเด็ก เเต่พอบิดาลองอ่านโน้ตดูก็พบว่าเป็นบทเพลงจริงๆเเละถามลูกชายว่าเป็นเพลงอะไร ลูกชายตอบว่าเป็น Concerto บิดาหันไปบอกกับเพื่อนนักดนตรีว่ายากอย่างนี้ใครจะเล่นได้ หนูน้อยโมสาร์ท เถึยงว่า Concerto ต้องยาก เเละคนเล่นจะต้องฝึกฝนอย่างดีจึงจะเล่นได้

    ตอนอายุ 6 ขวบ โมสาร์ทได้เข้าเฝ้าพระนางมาเรียเทเรซ่า ที่พระราชวังเชินบรุน (Schönbrun) เขาเกิดลื่นหกล้มบนพื้นที่ขัดเงาไว้อย่างดี เเละได้มีเจ้าหญิงน้อยๆราชธิดาของพระนางมาเรียฯ มาพยุงเขาให้ลุกขึ้น โมสาร์ทกล่าวขอบใจเจ้าหญิง เเละว่า เธอน่ารักมาก โตขึ้นฉันจะเเต่งงานกับเธอ เจ้าหญิงคนนั้นต่อมาคือ พระนางมารีอองตัวเเน๊ต พระมเหสีของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 เเห่งฝรั่งเศส

    วันหนึ่งบิดาเเละเพื่อนซ้อมดนตรีกัน โมสาร์ทในวัย 6 ขวบ ถือไวโอลินคันเล็กของตนมาเซ้าซี้ขอร่วมวงด้วย บิดาคิดว่าลูกคงเล่นไม่ได้เพราะยังไม่เคยเรียนการเล่นไวโอลิน จึงบอกให้เขาไปนั่งเล่นข้างๆเพื่อนซึ่งเล่นเเนวไวโอลินที่ 2 เเละกำชับให้ลูกเล่นเบาๆเพื่อที่จะได้ไม่รบกวนผู้ใหญ่ เเต่เมื่อได้ฟังสังครู่ บิดาจึงหยุดเล่นปล่อยให้โมสาร์ทเล่นเเทน ในที่สุดบิดาถึงกับน้ำตาไหลเมื่อได้ยินลูกเล่นได้ดีอย่างน่าอัศจรรย์

    อายุ 12 ขวบ เขาเเต่งอุปรากรได้สำเร็จจนกระทั่งโตเป็นหนุ่มอายุ 16 ปี จึงเลิกตระเวนทัวร์กลับมาเป็นนักดนตรีประจำราชสำนักตามรอยเท้าบิดา ช่วงนี้โมสาร์ทมีผลงานเพลมากมายหลายร้อยบท



    ช่วง 10 ปีสุดท้ายของชีวิตระหว่าง ค.ศ.1780-1791 โมสาร์ทใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเวียนนา เขาเริ่มต้นทำทุกอย่างในชีวิตอข่างรวดเร็วผิดมนุษย์ เหมือนกับจะหยั่งรู้ว่า อีกไม่ช้าไม่นานเขาต้องจากโลกนี้ไปเเล้ว

    ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1790 ขณะที่เขากำลังประพันธ์อุปรากรเรื่องสุดท้าย ขลุ่ยวิเศษ( Die Zauberflöt) มีชายลึกลับคนหนึ่งมาพบเเละจ้างให้เขาเเต่งเพลงสวดศพ (Requiem Mass) ให้กับผู้ที่ไม่ประสงค์จะเปิดเผยนามโดยไม่เกี่ยงงอนค่าจ้าง โมสาร์ทพยายามสืบว่าผู้ว่าจ้างนั้นเป็นใคร เเต่ไม่มีใครบอกได้ ต่อมาชายคนนั้นมาทวงถามความคืบหน้าของผลงาน เเละเเสดงความไม่พอใจเมื่อทราบว่างานยังไม่เสร็จ จึงเตือนโมสาร์ทว่า หมดเวลาของคุณเเล้ว หากเรื่องนี้เกิดขึ้นในขณะที่โมสาร์ทยังมีสุขภาพดี เขาคงจะเห็นเป็นเรื่องขบขัน หรืออาจคิดว่าเพื่อนเเกล้ง เเต่เผอิญช่วงนี้สุขภาพเริ่มทรุดโทรม เขาจึงจินตนาการว่าชายลึกลับนั้นเป็นตัวเเทนจากยมโลกส่งมาเพื่อให้เเต่งเพลงสำหรับงานศพของเขาเอง โมสาร์ท รู้สึกว่าตนคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน จึงทุ่มเทเวลาให้กับงานชิ้นนี้หามรุ่งหามค่ำ อาการป่วยทรุดหนักมากจนไม่สามารถสานต่อบทประพันธ์ให้สำเร็จลงได้ซึ่งเป็นที่น่าเศร้าสลดใจยิ่ง

    โมสาร์ทป่วยเเละเสียชีวิตลงเมื่อเดือนธันวาคม ค.ส. 1791 ด้วยวัยเพียง 35 ปี ศพของเขาถูกนำไปฝังรวมกับศพอื่นๆในหลุมเดียวกัน ณ สุสานเเห่งหนึ่ง ต่อมา Süssmazer ได้เเต่งเพลง Requiem Massจากต้นร่างของโมสาร์ทจบจบ

    ปัจจุบันนี้เป็นที่ทราบเเน่ชัดเเล้วว่า บุคคลที่ให้คนมาติดต่อจ้างโมสาร์ท คือ เคาน์วลเสก Walsegg ที่มีนิสัยชอบใช้บุรุษลึกลับจ้างให้นักเเต่งเพลง เเต่งเพลงประเภทต่างๆ เช่น Sonata,Concerto,Symphony ฯลฯ เเล้วนำผลงานเหล่านี้ไปพิมพ์ในนามของตน

    ในที่สุด Requiem Mass ก็ได้ใช้ในพิธีศพของโมสาร์ทจริงๆ เเละในงานศพของอีกหลายคน ที่สำคัญคือ ต่อมาอีกประมาณ 50ปี คือในเดือนตุลาคม ค.ศ.1849 บทประพันธ์อันงดงามนี้ได้ใช้ในพิธีศพอันยิ่งใหญ่ของ Frederic Chopin ณ โบสถ์Madeleine กลางกรุงปารีส

    โมสาร์ทเหมือนเทวดาตกจากสวรรค์มาเพียงชั่วครู่ชั่วยาม เเละได้นำเอาทิพย์สมบัติจากสวรรค์มาเป็นของขวัญฝากโลกมนุษย์จำนวนมากเเล้วสวรรค์ก็รีบมาตามตัวกลับไป

เเหล่งข้อมูล จุลสารชาวไทย ฉบับที่ 207ปีที่ 18

วันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2567

เห็บเยอรมัน ภัยร้ายเวลาเดินในสวน


Zecken หรือเห็บเยอรมัน

ภัยร้ายที่หลายคนไปเที่ยว หรืออาศัยอยู่เยอรมนีต้องระวัง เพราะพิษร้ายของสิ่งมีชีวิตเล็กๆนี้ ไม่ได้เล็กตามขนาดตัวของมันเลย จนมีเภสัชกรในเยอรมนีเตือนถึงภัย Zecken ที่บอกว่าอันตรายสาเหตุเนื่องจากการรายงานของสมาคมเภสัชกรท้องถิ่นที่ Ruhr ที่ระบุว่าจำนวน Zecke ในปีหลังๆเพิ่มมากขึ้นทุกที ระหว่างนี้ราวทุกๆ 3 ตัวมีโรคติดเชื้อ Borreliose เมื่อสิปปีก่อนยังเป็นทุก 1 ใน 10 ตัว เภสัชกรจึงเน้นให้เพิ่มความระมัดระวัง ตัวดูดเลือดขนาดเล็กนี้จะซุ่มตัวอยู่ในหญ้า พุ่มไม้ เฟิร์น หรือใต้ต้นไม้ในป่าที่ร่มรื่น ในสวนที่บ้านก็มีอันตรายจาก Zecken
สัตว์ตัวเล็กพวกนี้จะโจมตีเหยือจากกลิ่น พื้นที่ในร่างกายที่นิยมชมชอบเป็นพิเศษได้เเก่ส่วนที่อุ่น หรือเหงื่อออก เช่น ข้อพับเข่าหรือคอ การป้องกันการติดเชื้อที่ดีที่สุดจากการโดน Zecke กัดคือการป้องกันตัวไว้ก่อน ผู้ที่ไปเดินเล่นในป่าควรสวมรองเท้าปิด เเละสวมหมวก เครื่องเเต่งกายควรปกิดเเขนเเละขา

หลังการเดินเล่นควรสะบัดเสื้อผ้า เเละสำรวจเนื้อตัวหา Zecke มีข้อเเนะนำสำหรับผู้ที่ค้นพบตัวเห็บนี้คือ ควรใช้คีมพิเศษคีบทิ้งเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หลังดึงทิ้งไปเเล้วควรสังเกตดูตำเเหน่งที่โดนกัดอย่างถี่ถ้วน หากหลังจากนั้นหรือในสัปดาห์ต่อไมามีรอยเเดงเป็นรูปวงเเหวน อาจะป็นข้อบ่งชี้ถึงการติดเชื้อ Borreliose เเละต้องไปพบเเพทย์ บ่อยครั้งที่ผู้ประสบเหตุจะบ่นเกี่ยวกับการปวดศรีษาะ เป็นไข้ เจ็บตามข้อ รวมทั้งต่อมน้ำเหลืองบวม หากไม่รักษา Borreliose หลังการติดเชื้อหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน อาจจนำไปสู่การทำลายประสาทได้ ตรงข้ามกับเชื้อ Meningoenzephaltis (FSME) ที่ถ่ายทอดจาก Zecke โดยเฉพาะในภาคใต้ของประเทศเยอรมนี ไม่มีวัคซีนต่อต้าน Borreliose ผู้ที่เดินทางไปยังท้องถิ่นที่มีความเสี่ยงเกี่ยวกับ FSME เเพทย์มัจะเเนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันทั้งเด็กเเละผู้ใหญ่ เพื่อให้เป็นการป้องกันล่วงหน้าไปก่อน หรือเพื่อความปลอดภัยหากเผลอ หรือไม่ได้ระวัง เเพทย์ได้เตือนว่า  FSME เป็นการติดเชื้อไวรัส ซึ่งในกรณีนี้ยาปฏิชีวนะจึงไม่ได้ผล

วันจันทร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2567

Sisi จักรพรรดินีผู้เลอโฉมเเห่งออสเตรีย

             


 เอลิซาเบธเเห่งออสเตรียผู้เลอโฉม หรือซิซี่( Sisi) เกิดเมื่อวันคริสต์มาสของปี 1837 ในเมืองมิวนิค เเคว้นบาวาเรีย เป็นธิดาของดยุคมักซิมิเลียน เเละมาเรีย ลูดวิก้าเเห่งบาวาเรีย เมื่อซิซี่ทรงเจริญวัยเป็นสาวสวย เธอก็ได้พบกับเจ้าชายฟรานซ์ โยเซฟเเห่งออสเตรียในเมืองอันสวยงามชื่อซาลส์คัมเเมร์กุท ซึ่งเเต่เดิมพระองค์ทรงหมายพระทัยว่าจะทรงอภิเษกกับเฮเลน ผู้เป็นพี่สาวของซิซี่ เเต่ด้วยความงามเเละสติปัญญาอันหลักเเหลมของเธอ เจ้าชายฟรานซ์ โยเซฟจึงตกลงพระทัยเเละอภิเษกกับซิซี่ในที่สุด  ซึ่งตอนนั้นเธอยังคงเป็นสาวน้อยมีอายุเพียง  15 ปีเท่านั้น ความมีเสน่ห์เเละความงามของเธอได้ทำให้ซิซี่ได้กลายเป็นเจ้าหญิงขวัญใจพสกนิกรชาวออสเตรีย ชีวิตของพระองค์เปรียบเสมือนกับนิยาย


เเต่หลังจากพระประสูติกาลของมกุฏราชกุมาร ก็ทรงเเยกพระองค์อยู่อย่างโดดเดี่ยวในปี1859ทรงทิ้งทั้งพระสวามีเเละพระราชโอรส,พระราชธิดาไปอยู่ในหลายๆที่ทั้งเมืองมาไดร่า,เกาะคอร์ฟู เเละในเมืองเวนิสเนื่องจากความเป็นคนฉลาด ทันสมัย สนใจในการเมือง เมื่อฮังการีต้องการก่อกบฎเพื่อเเยกตัวออกจากออสเตรีย ซิซี่ถูกคนวิกลจริตเเทงตายขณะไปท่องเที่ยวที่เมืองนีซทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส

        เรื่องราวอันน่าประทับใจของซิซี่เเละจักรพรรดิหนุ่มได้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์เมื่อหลายสิบปีก่อน โรมี่ ชไนเดอร์ รับบทเป็นซิซี่ ส่วนละครเพลงอีกเรื่องหนึ่ง ชื่อว่า "เอลิซาเบธ" ซึ่งเป็นเรื่องราวของพระองค์ก็ถูกสร้างขึ้นเเละเเสดงในกรุงเวียนนาติดต่อกันอยู่ 5 ปี เรียกนักท่องเที่ยวเข้ามายังดินเเดนเเห่งนี้ได้มาก


 

เเหล่งที่มา   หนังสือชาวไทย ฉบับที่ 157/ปีที่ 14

การออกเสียงสระในภาษาเยอรมัน


 สระเบื้องต้นที่ควรทราบมี 5 เสียงคือ

a,e,i,o,u

1.     a เสียงนี้มีสองลักษณะ คือ อะ(Kurzes A- เสียงสั้น) หรือ  อา(Langes A-เสียงยาว)

    เมื่อไหร่จะออกเสียงสั้น หรือเสียงยาวให้สังเกตดังต่อไปนี้ เช่น

1.1    ออกเสียงยาว ให้เสังเกตการเขียนคำ ดังนี้

    คำที่เขียนด้วย a เช่น baden (บาเด็น)

    คำที่เขียนด้วย ah เช่น Bahn (บาห์น)

    คำที่เขียนด้วย aa เช่น Staat (ชทาท)

1.2 a ออกเสียงสั้น ให้สังเกตการเขียน ดังนี้

    หลัง a มีตัวสะกดเช่น

    Klasse (คลัสเซ)

    an (อัน)

    ab (อับ)

    das (ดัส)

เทคนิคการออกเสียง a  ทำลิ้นตรง เปิดขากรรไกรให้กว่าง เเล้วเปล่งเสียง อะ หรือ อา

2.     e เสียงนี้มีสามลักษณะคือ 

    เอะ (kurzes offenes E-เสียงเปิดสั้น)

    เอ (langes geschlossenes E-เสียงปิดยาว) 

เมื่อไรจะออกเสียง สั้นหรือเสียงยาวให้สังเกตดังต่อไปนี้ เช่น

2.1 e-เสียงเปิดสั้น ให้สังเกตการเขียนคำ ดังนี้

   - คำที่เขียนด้วย e เเล้วมีตัวสะกดเป็นอักษรเดี่ยวหรืออักษรคู่ เช่น stellen (สเท็ลเล็น),es (เอ็ส),wenn (เว็นน์)

    -คำที่เขียนด้วย ä  เเล้วมีตัวอักษร f เป็นตัวสะกด เช่น kräftig (เคร็ฟทิก)

2.2 e- เสียงเปิดยาว ให้สังเกตการเขียนคำ ดังนี้

    คำที่เขียนด้วย ä เเล้วมีตัวอักษร t เป็นตัวสะกดเช่น spät(สเพท)

    คำที่เขียนด้วย äh เช่น  zählen (เซเล็น)

2.3 e-เสียงเปิดยาว ให้สังเกตการเขียนคำ ดังนี้

    คำที่เขียนด้วยe เเล้วมี  g เป็นตัวสะกด เช่น Weg(เวก)

    คำที่เขียนด้วย ee เช่น Tee (เท),See (เซ)

    คำที่เขียนด้วย eh เช่น sehen (เซเฮ็น)

เทคนิคการออกเสียง e

กระดกปลายลิ้นเล็กน้อย เปิดขากรรไกร (ไม่กว้างเหมือนเสียง a) เเละสำหรับเสียง e- เสียงเปิดยาวให้เปิดขากรรไกรให้กว้างขึ้นอีกเล็กน้อย

3.    i เสียงนี้มีสองลักษณะคือ

    อิ(Kurzes i- เสียงสั้น) หรือ อี( Langes i-เสียงยาว)

เมื่อไหร่จะออกเสียง สั้นหรือเสียงยาวให้สังเกตดังต่อไปนี้ เช่น

3.1 i ออกเสียงยาว ให้เสังเกตการเขียนคำ ดังนี้

    คำที่เขียนด้วย i ไม่มีตัวสะกด เช่น Kino (คีโน)

    คำที่เชียนด้วย ie เช่น Sieben

    คำที่เขียนด้วย Ih เช่น Ihnen (อีเน็น)

    คำที่เขียนด้วย ichเช่น Beziehung (เบซีฮุ่ง)

3.2 i ออกเสียงสั้น ให้สังเกดการเขียน ดังนี้

    หลัง i มีตัวสะกด เช่น Bitte (บิทเท) in (อิน)  bis (บิส)

4.  O เสียงนี้มีสองลักษณะคือ

    โอะ (Kurzes O-เสียงสั้น ) หรือ โอ (Langes O-เสียงยาว)

เมื่อไหร่จะออกเสียงสั้น หรือเสียงยาว ให้สังเกตดังต่อไปนี้ เช่น

4.1 O (Langes O-เสียงยาว)

    คำที่เขียนด้วย O ไม่มีตัวสะกด เช่น Kino (คีโน)

    คำที่เขียนด้วย oh เช่น wohen (โวเน็น)

    คำที่เขียนด้วย oo เช่น Boot (โบท)

 4.2 (Kurzes O-เสียงสั้น ) ออกเสียงสั้น ให้สังเกตการเขียนดังนี้

    หลัง o มีตัวสะกดเดี่ยวหรือคู่ เช่น ob(อ๊บ) ,Otto (อ๊ทโท)

5. i เสียงนี้มีสองลักษณะคือ

5.1 u (Langes u-อู เสียงยาว)

    ไม่มีตัวสะกดหรือมีตัวสะกดเป็น ch เช่น Buch (บูค)

    คำที่เขียนด้วย uh เช่น Stuhl (สทูห์ล)

5.2 u (Kurzes u-อุ เสียงสั้น ) ออกเสียงสั้นให้สังเกตการเขียนดังนี้

    หลัง o มีตัวสะกดเดี่ยว หรือคู่ เช่น Suppe (ซุพเพ)





    



วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2567

บัตรคำสอบภาษาเยอรมันระดับA2

ในการสอบพื้นฐานภาษาเยอรมันระดับ A2 ในส่วนการสอบพูดนั้นจะมีบัตรคำหลายหมวดที่จะถูกสุ่มเลือกให้ผู้สอบ เลือกถามเเละตอบ โดยจะเป็นการตั้งคำถาม 2 ครั้ง เเละเป็นผู้ตอบ 2 ครั้ง ในความรู้ระดับนี้จะหลีกเลี่ยงการตอบเฉพาะว่า Ja หรือ Nein เฉยๆควรมีประโยคอธิบายต่อท้ายด้วย จะเเสดงความเข้าใจเเละได้คะเเนนมากขึ้น สำหรับหมวดนี้ จะอยู่ในหัวข้อ สุขภาพ เเละการเจ็บป่วย (Gesundheit und Krank sein) มีตัวอย่างการถาม เเละการตอบไว้ ซึ่งผู้อ่านสามารถนำไปใช้ถามตอบ หรือปรับใช้ในการสอบของท่านได้ 




1.Gehen Sie oft zum Arzt?   Nein.nur wenn ich krank bin,gehe ich zum Arzt.

2.Was ist Preis für Aspirin? Es kostet 5 Euro

3.Haben Sie einen Termin beim Arzt ? Ja . Am Montag um 8 Uhr.

4.Haben Sie Kopfschmerzen?Ja. Ich habe einbisschen Kopfschmerzen.

5.Tut Ihnen etwas weh? Ich habe Kopfschmerzen.

6.Haben Sie heute Halsschmerzen? Nein .Alles in ordnung.

7.Wo kann ich die Tabletten kaufen? Im Supermarkt gibt es eine Apotheke.

8.Haben Sie Fiber? Ja. Ich habe auch Fiber.

9.Wo ist hier das Krankenhaus?In der Stadt gibt es eine.

10.Trinken Sie Kräutertee?.Nein. Es gefällt mir nicht.

11.Rauchen Sie? Nein. Ich rauche gar nicht.

12.Machen Sie oft Sport? Ja.Näturlich 4 mal pro Woche.