สระเบื้องต้นที่ควรทราบมี 5 เสียงคือ
a,e,i,o,u
1. a เสียงนี้มีสองลักษณะ คือ อะ(Kurzes A- เสียงสั้น) หรือ อา(Langes A-เสียงยาว)
เมื่อไหร่จะออกเสียงสั้น หรือเสียงยาวให้สังเกตดังต่อไปนี้ เช่น
1.1 a ออกเสียงยาว ให้เสังเกตการเขียนคำ ดังนี้
คำที่เขียนด้วย a เช่น baden (บาเด็น)
คำที่เขียนด้วย ah เช่น Bahn (บาห์น)
คำที่เขียนด้วย aa เช่น Staat (ชทาท)
1.2 a ออกเสียงสั้น ให้สังเกตการเขียน ดังนี้
หลัง a มีตัวสะกดเช่น
Klasse (คลัสเซ)
an (อัน)
ab (อับ)
das (ดัส)
เทคนิคการออกเสียง a ทำลิ้นตรง เปิดขากรรไกรให้กว่าง เเล้วเปล่งเสียง อะ หรือ อา
2. e เสียงนี้มีสามลักษณะคือ
เอะ (kurzes offenes E-เสียงเปิดสั้น)
เอ (langes geschlossenes E-เสียงปิดยาว)
เมื่อไรจะออกเสียง สั้นหรือเสียงยาวให้สังเกตดังต่อไปนี้ เช่น
2.1 e-เสียงเปิดสั้น ให้สังเกตการเขียนคำ ดังนี้
- คำที่เขียนด้วย e เเล้วมีตัวสะกดเป็นอักษรเดี่ยวหรืออักษรคู่ เช่น stellen (สเท็ลเล็น),es (เอ็ส),wenn (เว็นน์)
-คำที่เขียนด้วย ä เเล้วมีตัวอักษร f เป็นตัวสะกด เช่น kräftig (เคร็ฟทิก)
2.2 e- เสียงเปิดยาว ให้สังเกตการเขียนคำ ดังนี้
คำที่เขียนด้วย ä เเล้วมีตัวอักษร t เป็นตัวสะกดเช่น spät(สเพท)
คำที่เขียนด้วย äh เช่น zählen (เซเล็น)
2.3 e-เสียงเปิดยาว ให้สังเกตการเขียนคำ ดังนี้
คำที่เขียนด้วยe เเล้วมี g เป็นตัวสะกด เช่น Weg(เวก)
คำที่เขียนด้วย ee เช่น Tee (เท),See (เซ)
คำที่เขียนด้วย eh เช่น sehen (เซเฮ็น)
เทคนิคการออกเสียง e
กระดกปลายลิ้นเล็กน้อย เปิดขากรรไกร (ไม่กว้างเหมือนเสียง a) เเละสำหรับเสียง e- เสียงเปิดยาวให้เปิดขากรรไกรให้กว้างขึ้นอีกเล็กน้อย
3. i เสียงนี้มีสองลักษณะคือ
อิ(Kurzes i- เสียงสั้น) หรือ อี( Langes i-เสียงยาว)
เมื่อไหร่จะออกเสียง สั้นหรือเสียงยาวให้สังเกตดังต่อไปนี้ เช่น
3.1 i ออกเสียงยาว ให้เสังเกตการเขียนคำ ดังนี้
คำที่เขียนด้วย i ไม่มีตัวสะกด เช่น Kino (คีโน)
คำที่เชียนด้วย ie เช่น Sieben
คำที่เขียนด้วย Ih เช่น Ihnen (อีเน็น)
คำที่เขียนด้วย ichเช่น Beziehung (เบซีฮุ่ง)
3.2 i ออกเสียงสั้น ให้สังเกดการเขียน ดังนี้
หลัง i มีตัวสะกด เช่น Bitte (บิทเท) in (อิน) bis (บิส)
4. O เสียงนี้มีสองลักษณะคือ
โอะ (Kurzes O-เสียงสั้น ) หรือ โอ (Langes O-เสียงยาว)
เมื่อไหร่จะออกเสียงสั้น หรือเสียงยาว ให้สังเกตดังต่อไปนี้ เช่น
4.1 O (Langes O-เสียงยาว)
คำที่เขียนด้วย O ไม่มีตัวสะกด เช่น Kino (คีโน)
คำที่เขียนด้วย oh เช่น wohen (โวเน็น)
คำที่เขียนด้วย oo เช่น Boot (โบท)
4.2 (Kurzes O-เสียงสั้น ) ออกเสียงสั้น ให้สังเกตการเขียนดังนี้
หลัง o มีตัวสะกดเดี่ยวหรือคู่ เช่น ob(อ๊บ) ,Otto (อ๊ทโท)
5. i เสียงนี้มีสองลักษณะคือ
5.1 u (Langes u-อู เสียงยาว)
ไม่มีตัวสะกดหรือมีตัวสะกดเป็น ch เช่น Buch (บูค)
คำที่เขียนด้วย uh เช่น Stuhl (สทูห์ล)
5.2 u (Kurzes u-อุ เสียงสั้น ) ออกเสียงสั้นให้สังเกตการเขียนดังนี้
หลัง o มีตัวสะกดเดี่ยว หรือคู่ เช่น Suppe (ซุพเพ)
0 comments:
แสดงความคิดเห็น